ความนึกคิดว่าด้วยการสอนพิเศษ
อยากทราบว่า เหตุอะไรที่ทำให้งานสอนพิเศษนี้งอกงามมาก แล้วเหตุผลอะไรที่ ผู้ปกครองมีการตอบสนองกับการสอนพิเศษที่ดี ในการที่ส่งลูกเข้าไปเล่าเรียน ในสถานที่เรียนกวดวิชาสอนพิเศษ (ภาคกิจการนอกสถานศึกษา) แล้วเหตุอะไรที่ ครูไม่สามารถสอนเด็กให้มีวิชาได้ในสถานศึกษา ซึ่งชีวิตจริง เยาวชนอยู่ในสถานศึกษาถึง 8 ชั่วโมง แต่กลับต้องมาอยู่ที่สถานศึกษาสอนพิเศษอีก คร่าวๆ 3 ชั่วโมงกลับบ้าน แทนที่จะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว สนุกกับการเล่นตามผะสาผู้เยาว์ ได้ออกกำลัง ได้สนทนากับบูรพการี ได้รังสรรค์ความเกี่ยวข้องอันดีกับวงศ์ญาติ เคยได้ฟังคนกล่าวว่า พ่อกับแม่ไม่มีเวลา แต่ระยะนี้ กลายเป็นว่า ทุกผู้ทุกนามไม่มีเวลา แล้วอนาคตภายหน้าจะเป็นยังไง พร้อมใจกันซิค่ะ อย่าทำให้เลือดเนื้อเชื้อไขคุณเป็นหุ่นสมองกลเลย ปล่อยเค้าไปตามธรรมชาติ ถ้าคุณนึกไม่ออก ก็ลองย้อนกลับมาดูชีวิตในวัยเด็กเล็ก ว่าคุณหวังทำอย่างไร ปล.

ที่กล่าวมาสารพัด ไม่ได้ว่าใคร แต่ทว่าคะนึงถึงหลักความจริงที่ว่า........... (รำลึกถึงหนังสือภาษาไทยสมัยเก่า ในเรื่องของ มานะ มานี ชูใจ อะไรแบบนี้ค่ะ)
เหตุผลที่ 1
1. สาเหตุที่อาจารย์ไม่ได้สอน เพราะว่าต้องสนองข้อรับรองปลอมบ้าบอคอแตก ที่มาประเมิน ประดุจดังระดูมา จึงต้องสอนพิเศษ
2. สินทรัพย์ไม่พอกิน เลยต้องสอนพิเศษ
3. ผู้สอนปราศจากเครื่องมือในการกำกับผู้เรียน ก็เพราะว่าแนวทางทางการศึกษาเล่าเรียนของไทย ที่ไปเอาประชาชาติอื่นมาใช้ โดยไม่นึกถึงภาวะตัวเอง การกำจัดปัญหาการศึกษา เปลี่ยนไปใช้แบบเดิมๆ โรงเรียนวัด ตกซ้ำชั้น ไม่ต้องมาประเมินหลักฐาน แค่ดูผลสอบโอเน็ต
เหตุผลที่ 2
1. ที่เรียนรู้ในห้องเรียน ไม่มีตอนสอบเข้า สมมติไม่มาฝึกข้างนอก สมมตไม่หาครูสอนพิเศษ ก็สอบเข้าไม่ไหวไม่ทันการคนที่เรียนพิเศษ จากครูสอนพิเศษ
2. บางโรงเรียนที่ว่าปราดเปรื่อง แน่แท้ แล้วอาจารย์ในสถานศึกษาสอนไม่เท่าไรดอก ที่ผู้เยาว์สามารถเพราะเรียนพิเศษจากภายนอก มีครูคอยสอนพิเศษไปชิง หรือว่าสอบเข้าที่ไหนก็ได้ โรงเรียนเลยได้หน้าได้ตาไปด้วยทั้งๆที่แท้จริงมีครูสอนพิเศษ
3. จนกระทั่งผู้ดูแลทุกคนเห็นประสิทธิผลของเด็กที่เรียนพิเศษ ก็หวังให้ลูกหลานได้สำเร็จบ้าง เลยประพฤติตามที่บุคคลอื่นทำมาแล้วและเห็นผลแล้ว ไปหาจ้างวานครู
สอนพิเศษ มาสอนพิเศษเลือดเนื้อเชื้อไขตนเองบ้าง
4. สมมติในโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนที่เป็นแนวใช้สอบคัดเลือกได้ ก็คงไม่มีใครหวังมาเสียเงินเรียนพิเศษหรอก เนื่องจากเรียนไปก็ไม่มีคุณประโยชน์ เพราะรู้หมดแล้ว แถมเสียเวล่ำเวลาอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องมีการสอนพิเศษเพิ่มเติม
5. บุพการีที่ส่งลูกเรียนพิเศษ มีเวลามากกว่าคนทั่วไปมาก เหตุด้วยบางท่านรับส่งไปหาครูสอนพิเศษวันละ 1-2 ชั่วโมงทั้งๆ ที่ หากว่าไม่มีเวลาคงทำมิได้
6. มันอยู่ที่การจัดการเวลา ใครก็ตามมีเวลาเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ดีแบ่งเวลาเอาไปใช้ไม่เหมือนกัน สุดแท้แต่ว่าบางท่านวางแผนไว้ไงบ้าง พอดีแก่ครัวเรือนเราหรือไม่
7. มันขึ้นกับเยาวชนด้วย บางท่านบีบบังคับให้เรียนพิเศษ ก็ไม่ยินยอมไปเรียน ต้องจ้างครูมาสอนพิเศษที่บ้าน
ไปเรียนพิเศษกับครูที่รับสอนพิเศษ ก็ยังดีกว่าไปเมายา เล่นการพนัน แถมยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ฝึกสมองไปในตัว ขมองต้องตริเป็นประจำ ถ้าไม่ใช้เซลล์สมองก็จะไม่ทำงาน ไม่ต่างกับเครื่องยนต์ที่ขัดสนน้ำมัน การใช้เวลาให้เป็นผลประโยชน์ คือการเรียนพิเศษหรือคะ เรียนๆๆๆ และก็เรียน เคยหันไปไต่ถามลูกบ้างมั๊ยว่า เรียกร้องเรียนหรือไม่ ลูกขอเรียนพิเศษเองมั๊ย เสาร์-อาทิตย์ แทนที่ได้ พักสมอง พักสมอง จำต้องมาเรียนกันอีกเหรอ วันๆคงจะเจอแต่ครูสอนพิเศษ เพื่อให้ตัวลูกเอง หรือเพราะว่าหน้าตาพ่อแม่ ไม่ได้แอนตี้เรื่องเรียนพิเศษ เนื่องจากลูกเราก็ยังเรียน ในบางวิชาที่เราไม่สามารถ สอนลูกได้ ลูกเราไม่ได้เรียนแจ๋วมากนัก เราให้เรียนกับคุณครู ผู้สอนพิเศษ ไม่เคยให้ลูกไปนั่งเรียนกับ วิดิโอ ที่ไม่สามารถโต้กลับ ปริศนาคาใจของลูกเราได้ เลือดเนื้อเชื้อไขเราไอคิวยังไม่ถึงขั้นนั้น ลูกเรามืดแปดด้านเรื่องวิชา บางที ครูสอนพิเศษ 1คน กับนักเรียน 40 คนซึ่งตั้งใจเรียนบ้าง ไม่เรียนบ้าง กับเวลาที่พร่ำสอนจริงๆคร่าวๆ 40 นาที ต่อกะ ใครหลักแหลมก็ได้ไปในชั่วโมงเรียน ลูกเราไม่เก่งค่ะ จำเป็นจะต้องมาทบทวนนอกรอบ จำเป็นต้องมีการสอนพิเศษ เพราะอาจถามเรื่องประกอบได้ง่าย เข้าใจง่าย เคยส่งลูกไปเรียนสถาบันสอนพิเศษ แต่ก็เหมือนกลับมามือเปล่า ไม่เอาแล้ว แต่ก่อนนั้นไม่มีเน็ต ก็ซื้อแบบฝึกหัดมาให้เด็กนั่งทำที่บ้านเพลิน ๆ ก็เพราะว่ายังไงก็มีเฉลยปัญหา ยังพอได้รู้วาลูกตอบถูกตอบผิด ถัดจากนั้นมีเนต ก็ให้ลูกตอบในคอม ไปเลย หาเกมลับสมอง มาให้ลูกเล่น จบค่ะ กะภารกิจบิดามารดา ที่ทำงานงกๆๆ แต่ก็สามารถจัดสรรเวลา มาสอนพิเศษลูก อยู่กับลูก วันละ 1 ชั่วโมงก็ยังดี ขอบอกอีกอย่าง..ไม่ได้เป็นอาจารย์นะคะ เพียงแต่ใจเขาใจเรา ครูบางท่านที่สอนพิเศษ อาจจะมองว่าหาเลี้ยงดูตัวเองด้วย อันนั้นก็มีส่วน แต่อีกอย่างนึง เนื่องจากมาจากจิตสำนึกของความเป็นคุณครูด้วยนะคะ ไม่ยังงั้นจะมานั่งจำจี้จำไชไปเพื่ออะไร ไม่ใช่ลูกหลาน ขนาดเราเป็นพ่อแม่ บางอารมณ์ ยังรู้สึกล้า รู้สึกโกรธกับลูกเลย อย่าอคติกับครูที่มาสอนพิเศษเลยค่ะ สมมติว่ามีเวลาพอก็สอนพิเศษลูกเองเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นธุระของใคร
You need to be a member of Nursery Admissions in Delhi NCR 2026-27 to add comments!
Join Nursery Admissions in Delhi NCR 2026-27